เปิดร้านเช่าหนังสือ

สวัสดีค่ะ หายไปนานเลยไม่ได้แวะมา update
วันนี้ติ๊กกี๋มีอะไรมาฝากเพื่อนๆด้วยคือเปิดร้านใหม่แต่ก็ยังเกี่ยวกับหนังสือนะค่ะ

เปิดแล้ววันนี้ บริการหนังสือสำหรับเช่าออนไลน์

เป็นร้านหนังสือเช่าค่ะ ตาม link นี้เลยค่ะ http://www.bookrental.in.th/




เป็นไงค่ะ ยังมีอีกนะค่ะ
กฎกติกาของทางร้านนะค่ะ เค้าบอกมาว่า

แพคเกจOption 1 เหมาอ่านได้ไม่อั้นครั้งล่ะ 1 เล่ม 299 พร้อมส่งฟรี!!

แพคเกจOption 2 เหมาอ่านได้ไม่อั้นครั้งล่ะ 2 เล่ม 499 พร้อมส่งฟรี!!

แพคเกจOption 3 เหมาอ่านได้ไม่อั้นครั้งล่ะ 3 เล่ม 699 พร้อมส่งฟรี!!

ทุกแพคเกจจะได้วันสะสม 20 วันในการอ่าน ถูกหักวันสะสมเฉพาะวันที่หนังสืออยู่กับลูกค้าเท่านั้น ไม่หักวันที่อยู่ระหว่างจัดส่ง.

หากลูกค้าท่านใดต้องการซื้อหนังสือ ขอเชิญชมได้ที่ www.booksonline.in.th

เพื่อนคนไหนสนใจก็เข้าไปชมตาม link ที่ติ๊กกี๋ให้ไว้นะค่ะถ้าไม่ได้ก็ใช้วิธี copy link แล้วเปิดได้ค่ะ
แล้วพบกันใหม่นะค่ะ

วันนี้มีอะไรใหม่

วันนี้มีอะไรใหม่

ร้านหนังสือออนไลน์

วันนี้มีเรื่องมาเล่าให้ฟังค่ะ เรื่องการเปิดร้านหนังสือออนไลน์ค่ะ

เพื่อนก็สามารถที่จะเปิดร้านหนังสือแบบนี้ได้นะค่ะแค่เราไปสมัครที่จะเป็นตัวแทนในการขายไง แถมสะดวกสบาย ง่ายมากค่ะ ถ้าหากว่าเพื่อนๆมีwebsite หรือblog เป็นของตัวเอง เราก็แค่เพียงนำป้ายโฆษณา หรือจะไปโปรโมท Link ให้ลูกค้าเข้าคลิกสั่งซื้อสินค้า เพื่อนๆ ก็จะได้รับรับค่าตอบแทนทันที โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมเลย ไม่ต้องรับภาระเรื่องการจัดส่ง, รับชำระเงิน หรือตาม Order สินค้าจากลูกค้า เนื่องจากบริษัทฯ มีการจัดส่งสินค้าทุกวันจันทร์-ศุกร์ พร้อมทั้งมี Call Center คอยให้บริการลูกค้าอยู่ตลอดดีไหมค่ะ ถ้าสนใจการขายหนังสือแบบนี้ก็ลองเข้ามาดูตาม link นี้ค่ะ http://www.complexplus.com/affiliate_link.asp?affid=4506&directurl=http://www.complexplus.com
คิดว่ามันน่าสนใจไม่น้อยเลยจริงไหมค่ะ

มาทำความรู้จักเลขมาตรฐานสากลกัน

เรามาทำความรู้จักเลขมาตรฐานสากลกันหน่อยดีไหมค่ะ ISBN คืออะไร คือการเปลี่ยนแปลงการทำงานของร้านหนังสือเกิดจากการใช้ Internation Standard book Number ไงค่ะ ในช่วงปี1960 ได้ค้นพบเพื่อช่วยสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจร้านขายหนังสือค่ะ เพราะ ISBN สามารถแยกหรือจำแนกหนังสือแต่ละเรื่อง ไม่ว่าจะตีพิมพ์จากที่ใด และยังช่วยจำแนกหนังสือที่มีผู้แต่งคนเดียวกันและชื่อเรื่องเหมือนกัน ตัวเลขชุดนี้นะคะยังช่วยเรื่องการค้นหา การสั่งซื้อ และการควบคุมหนังสือด้วยระบบคอมพิวเตอร์ค่ะ นอกจากนี้นะค่ะ เรายังใช้กับนิตยสาร วารสาร หนังสือพิมพ์ แต่เค้าใช้ ISSN (International Standard Serial Number) ตัวเลขของระบบ ISBN เป็นเลขมาตรฐานสากลประกอบด้วยตัวเลข 13 หลักค่ะ แบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นเลขหลักเดียวหมายถึง กลุ่มประเทศ แบ่งตามลักษณะทางภูมิศาสตร์ และภาษาที่ใช้ค่ะ เช่น "0" หรือ "1" หมายถึงภาษาอังกฤษ ถ้า "2" หมายถึงใช้ภาษาฝรั่งเศสค่ะ ส่วนเลขกลุ่มที่ 2 ที่ยาวๆ จะแตกต่างกันจะแสดงรหัสสำนักพิมพ์ (Publisher prefix) ไงค่ะ กลุ่มที่ 3แสดงลำดับชื่อเรื่องที่ผลิตโดยสำนักพิมพ์นั้นๆ ค่ะ และกลุ่มสุดท้ายจะเป็นเลขหลักเดียวเสมอ เป็นตัวเลขใช้สำหรับตรวจสอบค่ะ ซึ่งได้จากการคำนวนเลข 9 หลักแรก ใช้เพื่อการตรวจสอบความถูกต้องของเลข

ประเภทและหมวดหมู่ของหนังสือ

คราวที่แล้วเกริ่นไปนิดนึงเรื่องของการเริ่มต้นธุรกิจหนังสือ แต่คราวนี้มารู้จักประเภทของหนังสือและหมวดหมู่กันดีไหมค่ะ

อย่างแรกก่อน 1.หนังสือสารคดี ค่ะ เป็นหนังสือที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ สาระ ความรู้ ความคิด ทฤษฎีต่างๆ รวมไปถึงสูตรต่างๆด้วยยังมีแบ่งแยกย่อยออกไปอีกนะค่ะ เช่น หนังสือสำหรับเด็กและเยาวชน หนังสือแบบนี้ภาพประกอบเยอะแยะ ชวนให้อ่าน กำหนดวัยของผู้อ่าน หรือระดับความรู้ของผู้อ่านประกอบด้วย

ตำรา เอ๋ย ตำรา ก็หมายถึงหนังสือเรียนไงค่ะ วิชาใดวิชาหนึ่งนั้นเองค่ะ ที่ประกอบด้วยวิชาความรู้ การเรียนรู้ที่มีรายละเอียด ครอบคลุมเนื้อหาตามที่เราเรียนหรือตามหลักสูตร รูปเล่มก็มีระเบียบ หนังสือเรียนหรือตำรา มีเป็นเล่ม เป็นแผ่น เป็นชุดก็ได้นะค่ะ แถมมีแบบฝึกหัดให้เราได้ลงมือทำ

ถ้าพูดถึงตำรา หนังสือเรียนจะไม่พูดถึงหนังสืออ่านประกอบหรือหนังสือเพิ่มเติมคงไม่ได้เพราะว่าหนังสือนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับหรือเกี่ยวข้องกับเนื้อหาวิชาที่เรียนด้วยใช้อ่านประกอบได้เพื่อศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมด้วยตนเองตามใจ ก็แล้วแต่วัยของบุคคลนะค่ะ นอกจากนี้ยังมือหนังสือเสริมประสบการณ์หมายถึงหนังสือที่กระทรวงศึกษาธิการอนุญาตให้ใช้ในโรงเรียนได้แต่มิได้กำหนดให้เป็นหนังสือเรียนหรือหนังสืออ่านประกอบไงค่ะ

หนังสืออ้างอิง ก็จัดเป็นหนังสือกลุ่มนี้เหมือนกันนะ เพราะว่าหนังสือที่จัดทำขึ้นเพื่อให้ใช้ค้นหาคำตอบหรืออ้างอิงข้อเท็จจริงบางอย่าง ซึ่งเค้าจะจัดทำไว้อย่างดีเลยค่ะมีลักษณะพิเศษดังนั้นจึงมีราคาที่สูงไงค่ะ

ประเภทที่สอง 2. หนังสือบันเทิงคดี ค่ะ หมายถึงอะไร ก็คือเรื่องที่แต่งขึ้น สมมุติเพื่อให้ความบันเทิงแก่ผู้อ่านมีหลายรูปแบบได้แก่นวนิยาย เรื่องสั้น ไงค่ะ หนังสือนวนิยายในบ้านเราก็มีหลายหลายที่เดียว ผู้เขียนต้องใช้จินตนาการแต่งขึ้นจึงมีองค์ประกอบมีแกนหรือโครงเรื่อง มีตัวละคร เนื้อเรื่อง ฉาก สำเนา ภาษาและทรรศนะของผู้แต่งผู้เขียนไงค่ะ สำหรับเรื่องสั้นก็มีเยอะเหมือนกัน แต่เรื่องสั้นก็ตามความหมายเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมีวิกฤติการณ์ที่มีความสัมพันธ์สืบเนื่องใช้ความยาวของเรื่องเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาค่ะ โดยทั่วไปก็มีจำนวนคำไม่เกินหนึ่งหมื่นคำหรือสามารถอ่านจบได้ภายในชั่วโมงหรือครึ่งชั่วโมงค่ะ

ประเภทที่ 3 แล้วหนังสือความรู้ทั่วไป หนังสือแบบนี้มีทั้งสาระและความบันเทิง มีเนื้อหาหลากหลายครอบคลุมหลายด้านค่ะ เช่นหนังสือชีวประวัติบุคคล สถานที่ เหตุการณ์ อาจเป็นเรื่องที่แต่งหรือค้นคว้าตามความสนใจก็ได้นะค่ะ

ประเภทที่ 4 ได้แก่หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสาร ที่มีอยู่มากมายในท้องตลาดบ้านเรา ที่มีทั้งรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน หนังสือกลุ่มนี้จึงมีความหลายหลายและมีกลุ่มผู้อ่านหลายหลายเช่นเดียวกันค่ะ เพราะเป็นหนังสือที่มีกำหนดระยะเวลาออก

ที่แน่นอน หาซื้อง่ายก็ตามแผงทั่วไป บางเล่มสามารถสมัครสมาชิกได้ด้วยก็สะดวกดี เป็นไงค่ะ หลังจากทำความรู้จักกับหนังสือและประเภทแล้ว เราต้องรู้จักกลุ่มผู้อ่านด้วยเพราะว่าเป็นหนทางในการเปิดร้านที่จะเลือกซื้อหนังสือเข้าร้านให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าไงค่ะ

มาเปิดร้านหนังสือกัน

ธุรกิจร้านหนังสือมีมานานแล้วเกิดขึ้นเพื่อตอบสนองนักอ่านในทุกแวดวง และแม้ในปัจจุบันจะมีสื่อมากมายที่เข้ามาแทนที่ก็ตาม ร้านหนังสือก็ยังคงเป็นแหล่งที่หาข้อมูลอยู่ทุกยุคทุกสมัย ร้านหนังสือในบ้านเรามีอยู่มากมายและก็เข้าสู่โลกของอินเตอร์เน็ตที่ทำให้เกิดแนวคิดใหม่และตอบสนองความต้องการของผู้ที่ต้องการตรงที่มันเปลี่ยนจากการเดินเข้าร้านมาเป็นเปิดหนังสือจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ดูสะดวกดีจริงไหม.....

ติ๊กกี๋ก็เชื่อนะค่ะว่ามีผู้คิดจะเปิดร้านหนังสือแล้วไม่มีความรู้ด้านหนังสือมาก่อน เหมือนกันเลย.... แต่ก็หันมาจับธุรกิจนี้ เพราะเป็นธุรกิจในฝันของใครหลายคน ตรงที่มีเสน์ห์ในตัวเอง ..จริงไหมค่ะ

ความอยู่รอดของร้านหนังสือมีปัจจัยหลายอย่างเพราะพฤติกรรมผู้อ่านเปลี่ยนไปตามรสนิยมที่เน้นความสะดวกสบาย ถ้ามีร้านของตัวเองก็ต้องมีการตกแต่งร้านให้เกิดบรรยากาศให้ผู้อ่านเกิดความอยากซื้ออยากอ่านจริงไหมค่ะ ถ้ามีแต่เพียงชั้นวางหนังสือคงหมายถึงแผงหนังสือเท่านั้นเอง มันก็คงไม่ดึงดูดใจเท่าไหร่ดังนั้นถ้าคิดจะทำธุรกิจนี้ก็ต้องหากลวิธีกันหน่อยแล้วจริงไหมค่ะ